ศิลปินแห่งชาติ
นายจิตต์ จงมั่งคง ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่ายศิลปะ) พุทธศักราช ๒๕๓๘
การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ
"ผมคิดว่างานถ่ายภาพคืองานศิลปะ สิ่งสำคัญต้องมีจินตนาการ ภาพต้องมีอารมณ์ ดูแล้วให้ความรู้สึก และภาพต้องมีน้ำหนักของแสง คนถ่ายภาพก็ต้องรู้จักมองโลกในแง่ดี เพื่อให้ผลงานนั้นออกมาดีที่สุด...
ประวัติ จิตต์ จงมั่นคง ศิลปินแห่งชาติและนักถ่ายภาพ จิตต์ จงมั่นคง ถือว่าเป็นศิลปินนักถ่ายภาพผู้บุกเบิกด้านการถ่ายภาพ และได้รับการคัดเลือกให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ ในสาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่ายศิลปะ) นายจิตต์ จงมั่นคง เกิดเมื่อวันที่ 1 เดือน มกราคม พ.ศ. 2465 ที่ กรุงเทพมหานคร จบการศึกษาชั้นมัธยม 4 จาก โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก เริ่มงานถ่ายภาพเมื่ออายุได้ประมาณ 16 ปี นับเป็นผู้ที่ได้อุทิศตนให้กับงานด้านการถ่ายภาพและการถ่ายภาพศิลปะอย่างแท้จริง นายจิตต์ จงมั่นคง เคยได้
รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเป็นผู้ทำหน้าที่ล้างฟิล์มถวายเป็นเวลาร่วม 37 ปี
ในวิชาชีพด้านภาพถ่ายนั้น จิตต์ จงมั่นคง ถือเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นทั้งช่างภาพและช่างห้องมืด เป็นที่ยอมรับในวงการถ่ายภาพทั้งในอดีตและปัจจุบัน ในด้านภาพถ่ายเชิงศิลปะนั้น นายจิตต์ จงมั่นคง ได้ทำการจัดแสดงผลงานในการแสดงภาพถ่ายในประเทศเดนมาร์กและที่ฮ่องกง และแสดงเดี่ยวภาพถ่ายที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และที่อื่นๆมากมาย
นายจิตต์ จงมั่นคง เป็นผู้ได้รับการยกย่องและเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ ในสาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่ายศิลปะ) ประจำปีพุทธศักราช 2538
จิตต์ จงมั่นคง ได้เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2552 ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยอาการโรคหัวใจ อายุรวมได้ 87 ปี
รางวัลแห่งชีวิต
ด้วยความมุ่งมั่นอุตสาหะและมีฉันทะต่องาน จิตต์ จงมั่นคง ถึงกับออกปากในวันนี้ว่า เกียรติประวัติสูงสุดสำหรับชีวิตของนักถ่ายภาพธรรมดาๆคนหนึ่งเช่นเขา ก็คือรางวัลภาพชนะเลิศพระราชทานจากพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
"รางวัลนี้ทำให้นักถ่ายภาพอย่างผมรู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุด ผมได้รับรางวัลชนะเลิศพระราชทาน จากภาพถ่ายชื่อว่า 'เมื่อพายุโหม' ซึ่งเป็นภาพที่ผมส่งเข้าประกวด และต้องแข่งขันกับบรรดานักถ่ายภาพนานาชาติ ปีนั้น ผมจำได้ว่ามีคนส่งภาพเข้าประกวด ๔,๐๐๐ กว่าภาพ ภาพของผมได้รับรางวัลชนะเลิศ รู้สึกภูมิใจที่สุดในชีวิต...
และเมื่อได้รางวัลแห่งความภาคภูมินั้นมาแล้ว เราต้องรักษาให้ดีที่สุด ไม่ควรหลงระเริง"
นั่นเป็นคำกล่าวช่วงสุดท้ายของการสัมภาษณ์ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพถ่ายศิลปะ)......จิตต์ จงมั่นคง...
บางครั้งชีวิตของคนคนหนึ่งซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกือบหนึ่งศตวรรษ ย่อมมีอะไรให้ค้นหาเรียนรู้มากมาย มีใครบางคนเคยกล่าวว่าการเรียนรู้ชีวิต ก็เหมือนกับการเรียนลัด
มีใครบางคนเคยกล่าวว่า การเรียนรู้ชีวิต จากประสบการณ์ของคนรุ่นเก่าก่อน ที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว นับ เป็นแบบเรียนที่ดี ที่คนรุ่นต่อๆ มาจะได้ศึกษาเรียนรู้โดยมิต้องเอาชีวิตไปทดลองให้เสียเวลา แต่นำบทเรียนเหล่านั้น มาต่อยอดให้เกิดคุณค่ามากยิ่งขึ้นต่อไป
...และเมื่อใดก็ตามที่เกิดความมุมานะอุตสาหะขึ้นในจิตใจ แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคอันใหญ่หลวงเพียงไหน ฝันที่ราวกับอยู่ไกลเกินเอื้อม ก็อาจใกล้เพียงมือคว้า...
นี่ไม่ใช่เพียงประโยคปลอบประโลมใจ หากเป็นมุมชีวิตจริงที่เกิดขึ้นกับ จิตต์ จงมั่นคง อดีตเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งมีความฝันอันแรงกล้าบรรจุเต็มหัวใจ ทว่าเบื้องบนกลับบันดาลให้เขาต้องเดินไปบนหนทางที่ปูด้วยขวากหนาม



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น